วันที่ 4 ก.ค.59 ในสังคมออนไลน์ของชาวพิษณุโลก ได้โพสต์ภาพ และข้อความที่สร้างความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เมื่อชาย 3 คน ขึ้นไปยืนบนแขนของหลวงพ่อพระพุทธชินราช เพื่อวัดขนาดเนื่องจากหลวงพ่อพระพุทธชินราชเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิของคนพิษณุโลก จะทำการวัดก็ควรจะใช้นั่งร้านไม่ใช่ขึ้นไปเหยียบองค์เช่นนี้ ซึ่งในโซเซียลของชาวพิษณุโลกต่างประณามการกระทำดังกล่าว
ต่อมา ทางวัดใหญ่ ทราบ รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เป็นการกระทำโดยพละการ ของช่างโรงหล่อพระเอกชนในพิษณุโลก การดำเนินการดังกล่าว มาจากดำริของเจ้าอาวาสวัดใหญ่ ที่จะสร้างองค์พระพุทธชินราชองค์จำลอง เพื่อนำไปประดิษฐานที่วิทยาสงฆ์พระพุทธชินราช ได้ว่าจ้างโรงหล่อพระเอกชนให้มาดำเนินการ ช่างก็ได้เข้ามาวัด ขนาด และมีการปีนขึ้นไปที่องค์พระ ซึ้งตามความเป็นจริงแล้ว ต้องใช้นั่งร้าน ไม่ใช่กระทำการอย่างนี้
เมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวพิษณุโลก ไม่พอใจกับการกระทำ เหมือนเหยียบหัวใจของพุทธศาสนิกชน อย่างที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า พระพุทธชินราชเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาทางโรงหล่อมาทำพิธีขอขมาภายหลังจากที่กระทำไปเช่นนั้น
ด้านนายขวัญทอง สอนศิริ ที่ปรึกษาวัดใหญ่ กล่าวว่า ปกติการจะปีนองค์พระพุทธชินราชต้องมีนั่งร้าน หรือใช้บันได
"ตนเข้าใจว่าประชาชนที่กราบไหว้องค์หลวงพ่อเห็นภาพตอนยืนเหยียบองค์พระพุทธชินราช จนทำให้รับไม่ได้ และมีเสียงวิจารณ์มากมาย ซึ่งการขึ้นไปวัดองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราชเพื่อหล่อองค์จำลองรายละเอียดของพระพักตร์ (ใบหน้า) พระกัณฑ์ (หู) ไม่มีการทำรายละเอียดไว้ มีเพียงขนาดองค์พระพุทธชินราชโดยรวมก็เลยขออนุญาตยาม ว่าทางวัดให้ขึ้นไปวัดขนาดองค์พระพุทธชินราช โดยไม่ได้นุ่งขาวห่มขาว ทำพิธีกรรมมีเครื่องบูชา หรือปีนบันไดปีนขึ้นไปวัดขนาดองค์พระตามต้องการ ขณะที่ประชาชนที่มากราบไหว้มองเห็นความไม่เหมาะสมก็ถ่ายรูปลงแชร์ในโลกโซเชียล ขณะนี้ทางเลขาส่วนตัวเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้ชี้แจ้งกรณีดังกล่าวแล้วทางวัดยอมรับว่าพลาดไป ด้านหน้าองค์พระเป็นพื้นที่สงวนที่ต้องห้าม ต่อไปคงต้องระมัดระวังมากกว่านี้"นายขวัญทอง กล่าว
ขอบคุณที่มา: http://www.kanomjeeb.com/news-details.php?item=6486