หน้าเว็บ » » จับมือยิงนักธุรกิจมาเลย์ รับค่าจ้าง7แสนเด็ดหัว...

จับมือยิงนักธุรกิจมาเลย์ รับค่าจ้าง7แสนเด็ดหัว...


กองปราบบุกชาร์จจับกุมตัวมือปืนยิงนักธุรกิจคารถเบนซ์กลางเมืองหาดใหญ่ สารภาพรับค่า 7 แสนเด็ดหัว ขณะที่ผู้ต้องหาร่วมขบวนการยังหนีลอยนวล ตร.ระดมกำลังไล่ล่า...

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 ก.ค. พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.กก.6 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 600/18 หมู่ 3 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จับกุมตัวนายเอกพล อินทร์แก้ว อายุ 42 ปี ที่อยู่ 18013/37 หมู่ 9 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช อดีตทหาร EOD ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตามหมายจับเลขที่ 111/2558 ในข้อหาร่วมกันฆ่า ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 58 บนถนนกาญจนวาณิชย์ แยกคลองปอม หมู่ 8 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถเบนซ์ สีดำ รุ่น s300 ทะเบียน 1 ฌ 1 กทม. ทำให้นาย ลี อา ฮาน อายุ 44 ปี นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เสียชีวิตทันที และนางมยุรี ทิพย์มณี อายุ 42 ปี ที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ สาเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบพบมาจากปมฆ่าล้างหนี้ซื้อขายที่ดินมูลค่านับร้อยล้านบาทระหว่างผู้ตายกับกลุ่มผู้จ้างวาน และเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว น.ส.นงเยาว์ หนึ่งในผู้ต้องหาและอ้างว่า นายลี เชียง ลุง ผู้ตายได้มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับน้องสาวของนายอภิชน แซ่โล้ว หรือเสี่ยชน อายุ 47 ปี โดยผู้ตายได้แอบถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้เพื่อแบล็กเมล์ และได้ขอซื้อที่ดินแปลงหนึ่งในราคา 20 ล้านบาท แต่ไม่สำเร็จ ต่อมานายอภิชน ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.วิชชภัณฑ์ จันทราภรณ์ ผกก.สภ.ทุ่งลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด แบบตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บย 5005 สุราษฎร์ธานี ที่ใช้ก่อเหตุที่ แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ...

จากการสืบสวนสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับนายตัน วุน เจ้น อายุ 28 ปี ชาวมาเลเซีย ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบก ลงวันที่ 19 ม.ค.59 ซึ่งยังหลบหนี ซึ่งในวันนี้ได้ทำการจับกุมตัวนายเอกพล อินแก้ว ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นคนยิงหลังจากสืบทราบว่าหนีมากบดานที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้ทำการเข้าชาร์จขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ค้นภายในกระเป๋าสะพายพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซด พร้อมเครื่องกระสุอีก 25 นัด

จากการสอบสวนเบื้องต้นสอบนายเอกพล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงผู้ตายจริงโดยได้รับค่าจ้างในราคา 7 แสนบาท โดยไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นนักธุรกิจร้อยล้าน หลังก่อได้แยกย้ายกันหลบหนีจนมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว และในคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีหมายจับของศาลมณฑลทหารบกที่ 42 อีก 3 คน ประกอบด้วย นายธนเดช เงี่ยนตัน นายชินพัฒน์ พิทักษ์ไทย นายยุทธศักดิ์ กล้ามาก ทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.







Popular Posts

Powered by Blogger.