ตำรวจอีกแล้ว...!! ช่วยป้าที แชร์ด่วน.!!
ลูกสาวถูกข่มขืน ไล่ไปตรวจร่างกายเอา ยาไปกิน ตำรวจไม่ว่างบอกคดีเยอะ รอไปก่อน...เฮ้ยยยยยย
แจ้งความเงียบลูกสาวถูกเพื่อนบ้านบุกข่มขืนคาบ้าน
- แม่วัย 50 ปีใจสลายหลังลูกสาววัย 17 ปี เป็นเด็กเรียนดีไม่เคยออกนอกบ้าน ถูกหนุ่มเพื่อนบ้านบุกเข้าไปข่มขืน กลางวันแสกๆ ระหว่างแม่ออกไปรับจ้างตัดอ้อย เข้าแจ้งความตำรวจบอกไม่ว่างไปตรวจสอบ ผ่านไป 3 วันคนก่อเหตุยังลอยนวลตามหมู่บ้าน วอนช่วยเหลือเพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะครอบครัวยากจน
-นางกลม ปักกะโส อายุ 50 ปี อยู่เลขที่ 52 หมู่ 16 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านผู้สื่อข่าวเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากพา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายสุวัฒน์ (ก้อง)ทะระยาน อายุ 19 ปี เพื่อนบ้าน ที่บุกเข้าไปข่มขืน น.ส.เอ ขณะอ่านหนังสืออยู่บนบ้านเพียงลำพังในช่วงเวลากลางวัน
- นางกลม เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น.ระหว่างที่ตนเองไปรับจ้างตัดอ้อยในหมู่บ้าน ได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว ว่าให้รีบกลับบ้านด่วน เมื่อกลับมาถึงบ้านลูกสาวได้เข้ามากอดพร้อมเล่าเรื่องให้ฟังว่า “ไอ้ก้องเอาไปหมดแล้ว ไอ้ก้องมันบังคับข่มขืนบนบ้าน”
-ตนเองตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากเป็นกลางวันแสก ๆ และคนก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้าน จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.คูเมือง แล้วเอาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลคูเมือง จากนั้นหมอได้ให้ยามาหลายชนิด สอบถามทราบว่ามียาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาป้องกันโรคเอดส์
-หลังให้ปากคำตำรวจ ทางพนักงานสอบสวนให้รอก่อน เพราะงานไม่ว่างจะต้องทำอีกหลายคดี จึงเดินทางกลับบ้าน เมื่อกลับมาบ้านได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านต่างๆนาๆ ว่าเอาผิดไม่ได้เพราะผู้ชายไม่ยอมรับ และคนก่อเหตุยังท้าทายให้แจ้งความ
-นางกลม เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุลูกสาวมีอาการซึมเศร้าไม่พูดกับใคร แม่ได้แต่ปลอบใจ และมีความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะตำรวจไม่เคยมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นคนมีฐานะ ส่วนตนเองเป็นคนจนหาเช้ากินค่ำ จึงอยากจะเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือเพราะล่าสุดถูกตำรวจโทรศัพท์แจ้งว่าให้ระวังหากแจ้งความเท็จ ทั้งที่ตนกับลูกเป็นผู้เสียหายและได้รับความอับอาย
-ซึ่งตนกับลูกสาวพร้อมที่จะสู้ถึงที่สุดเพื่อขอความเป็นธรรม โดยเฉพาะตั้งแต่วันเกิดเหตุตนไม่เข้าไปเก็บกวาดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อรอให้ตำรวจมาพิสูจน์หลักฐาน