เพราะการได้ชายในฝันมาครอบครองนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ภารกิจต่อไปที่รอคุณอยู่คือทำยังถึงจะมัดใจเขาไว้ให้อยู่หมัด และวิธีที่ง่ายแล้วได้ผลที่สุดในการมัดใจหนุ่มก็คือทำให้เขามีความสุขยังไงล่ะ เปล่า เราไม่ได้สนับสนุนให้คุณประเคนให้พ่อตัวดีทุกอย่างกระทั่งสิ่งที่คุณไม่ชอบไม่อยากทำหรอกนะ กลับกัน คุณแค่ต้องแสดงออกให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจ ใส่ใจ และเห็นคุณค่าของเขามากแค่ไหนต่างหาก เขาสุขได้แต่เราต้องสุขด้วย ถึงจะดี
วิธีการ 1 จาก 3: ให้เขารู้ว่าคุณก็แคร์
ไม่ต้องคิดหาวิธีให้มันสลับซับซ้อนหรอก ถ้าชอบเวลาเขาหัวเราะ ก็บอกไปเลย ถ้าเขาเซ็ตผมได้หล่อโดนใจ หรือทำตัวสุภาพกับคนแปลกหน้าจนน่ารักน่าเอ็นดู ก็ชมเขาไปตามนั้น และจะยิ่งดีไปใหญ่ถ้าคุณชมเรื่องที่สำคัญสำหรับเขา อย่างเขาเล่นบาสเก่งจัง หรือสอบได้คะแนนเลขดีอีกแล้ว
โฆษณา
2 ขอบคุณนะที่ใส่ใจกัน. การจะคบหากันให้ได้ตลอดรอดฝั่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เป็นเรื่องที่ต้องพยายามกันทั้งสองฝ่าย ให้คุณคอยสังเกตและจดจำอะไรก็ตามที่เขาสู้อุตส่าห์ทำเพื่อคุณ ทำเพื่อ "เรา" แล้วบอกให้เขารู้ว่าคุณดีใจ และทุกอย่างที่เขาทำนั้นมันสำคัญสำหรับคุณ[2]
เขาอุตส่าห์หางานพิเศษทำเพราะอยากพาคุณไปเดทหรูๆ หรืออยากเก็บเงินดาวน์อพาร์ทเม้นท์ใช่ไหม? เคยหรือเปล่าที่เขาแวะมารับคุณทั้งที่ไม่ใช่ทางผ่านเพราะไม่อยากให้คุณต้องเดินฝ่าฝนกลับบ้าน? เขาสุภาพน่ารักกับแม่ของคุณไหม? ถ้าใช่ก็บอกไปเลยตรงๆ ว่า “เราดีใจมากเลยนะ ที่นาย [เรื่องที่เขาทำ] ให้เรา เพื่อเราสองคน”
3 แสดงความรักบ้าง. ถึงหนุ่มของคุณจะรักนะแต่ไม่ค่อย (ชอบให้) แสดงออก ก็ยังมีวิธีอื่นที่บอกให้เขารู้ได้ว่ารักจังเลยคนนี้ เพราะการบอกรักใครสักคน การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอแหละ[3]
อยู่ๆ ก็จับมือเขา แล้วยื่นหน้าไปจุ๊บไม่ให้ทันตั้งตัว ถ้าเขาไม่ชอบให้จับมือ ก็แค่ปัดมือไปโดนมือเขานิดๆ หน่อยๆ หรือแกล้งจุ๊บแก้มเบาๆ ก็ดีเหมือนกัน
ถึงจะเป็นหนุ่มหัวสมัยใหม่แค่ไหน แต่ผู้ชายทั่วไปก็ชอบปกป้องแฟนสาวด้วยกันทั้งนั้น เพราะงั้นให้ลองเอียงหัวพิงไหล่เขาดู หรือนั่งตักเขา แบบนั้นน่ะจะทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังปกป้องคุณอยู่ในอ้อมแขนของเขาไงล่ะ
4 แบ่งเวลาพิเศษสำหรับเขา. การใช้เวลาอยู่ด้วยกันน่ะถูกต้องแล้ว แต่ขอให้แน่ใจว่าพออยู่ด้วยกันแล้วคุณจะสนใจใส่ใจแต่เขาคนเดียว หมายความว่ามือถือที่เล่นอยู่น่ะวางลงซะ เงยหน้ามาจ้องตาเขาหน่อย แล้วฟังกัน คุยกัน หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เขารู้ว่าคุณกำลังอยู่ข้างๆ กัน[4]
ใช้เวลาร่วมกันให้คุ้มค่าที่สุด — ทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบด้วยกันทั้งคู่และเป็นสิ่งที่สร้างความทรงจำอันดี ทุกคนต่างก็ยุ่งจนหาเวลาว่างแทบไม่ได้กันทั้งนั้น เพราะงั้นพอมีเวลาอยู่ด้วยกัน ก็อย่าปล่อยให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย อยู่ๆ ก็ออกเดินทางท่องเที่ยวกันโดยไม่ได้วางแผนก็ได้ จะไปเรียนโต้คลื่นกันก็น่าสนุก หรือจะแค่นั่งเฉยๆ แล้วคุยกันฟังกันอย่างตั้งใจจริงๆ ก็ดีไม่น้อย[5]
นักวิจัยความสัมพันธ์คนสำคัญอย่าง John Gottman ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันนั้น มีแนวโน้มที่เราจะปฏิสัมพันธ์กันในเชิงบวกห้าครั้งต่อปฏิสัมพันธ์ในเชิงลบหนึ่งครั้ง ยิ่งเราให้ความสนใจ เป็นห่วงเป็นใย ชื่นชม และรักใคร่ ก็ยิ่งช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกให้มากจนถึง "จำนวนครั้งในอุดมคติ" ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เริ่มต้นจากการใส่ใจในรายละเอียดของกันและกันทั้งนั้น[6]
โฆษณา
วิธีการ 2 จาก 3: เขาคนนี้ที่คุณรู้จักดีกว่าใคร
1 พูดภาษาเดียวกับเขา. ในระยะเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งผู้เชี่ยวชาญและคนธรรมดาทั่วไปต่างก็ให้การยอมรับในแนวคิดของนักวิจัยความสัมพันธ์อย่าง Gary Chapman ที่ว่าคนเรานั้น "พูดจา" ด้วย "ภาษารัก" กันหนึ่งถึงห้าประเภทด้วยกัน ถ้าคุณลองค้นหาจนเจอว่าภาษารักชนิดไหนที่ใช้ได้ผลดีกับหวานใจของคุณ ก็จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารและสื่อรักได้โดนใจกว่าเดิม[7]
"ภาษารัก" ห้าแบบของ Chapman นั้น ประกอบไปด้วย การบอกรักด้วยคำพูด การใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่ การมอบของขวัญให้กัน การช่วยเหลือดูแลกัน และการแตะต้องสัมผัสกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาษารักภาษาหลักของคนรู้ใจของคุณ เขามีแนวโน้มจะตอบสนองกับภาษารักที่เขาใช้และให้ความสำคัญมากกว่าภาษารักประเภทอื่นๆ เช่น หากหนุ่มของคุณให้ความสำคัญกับ "การใช้เวลาอยู่ร่วมกัน" เขาจะดีใจถ้าคุณชวนไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดยาว มากกว่าเวลาคุณให้บัตรของขวัญไว้ซื้อของจากร้านโปรดของเขา
เป็นหน้าที่ที่คุณต้องลองสังเกตปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไปของเขาเวลาคุณใช้ภาษารักที่แตกต่างกันออกไป พอคุณรู้แน่แล้วถึงภาษารักของเขา คุณก็จะสามารถแสดงความรักได้ตรงจุด ซึ่งเขาเองก็จะรับรู้และชื่นชมกับความรักของคุณมากยิ่งขึ้นไปอีก
2 ซื่อสัตย์จริงใจกับเขาเสมอ. ไม่มีแฟนหนุ่ม แฟนสาว หรือใครที่ไหนคบใครอย่างมีความสุขได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้ารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อใจไว้ใจเราเต็มที่ การซื่อสัตย์จริงใจ แม้ในยามที่ห้ามใจได้ยากที่สุด นั่นแหละคือกุญแจสำคัญสู่การไว้เนื้อเชื่อใจกัน[8]
แน่นอนว่าความจริงบางครั้งก็ทำให้เจ็บปวด และอาจทำให้เขาเสียใจได้เวลาคุณพูดอะไรออกไปตรงๆ แต่ถ้าเขาก้าวผ่านความเจ็บปวดนั้นไปได้ เขาก็จะคิดได้ ว่าเป็นเพราะคุณเชื่อใจเขาไงล่ะ ถึงได้กล้าพูดกับเขาตรงๆ
เรื่องบางเรื่องอย่างการยอมรับว่านอกใจแฟนนี่แหละที่ยากจะบอกความจริงกับเขา อย่าปล่อยให้เรื่องมันผ่านเลยไปลับหลังเขา แต่ต้องหาเวลาที่คุณทั้งคู่สงบจิตสงบใจได้ ไม่มีอะไรมารบกวน แล้วเปิดอกคุยกัน ขอให้ระวังคำพูดให้มาก (จะลองฝึกพูดไว้ก่อนก็ได้) แต่อย่าอ้อมไปอ้อมมาจนพูดอะไรไม่ชัดเจน ให้เปิดประเด็นด้วยประโยคอย่าง "เราขอโทษนะที่ต้องพูดแบบนี้ แต่นายควรจะได้รู้ความจริงจากปากเรา" จากนั้นก็ยอมรับผิดแต่โดยดี ขอโทษเขาแล้วอธิบายให้ฟัง แต่อย่าขอร้องอ้อนวอนหรือบังคับให้เขาให้อภัย แค่บอกว่าหวังว่าเขาจะยอมยกโทษให้คุณก็พอ
ถ้าคุณไม่กล้าบอกความจริงบางอย่างเพราะกลัวว่าเขาจะบอกเลิกคุณ หรือกลัวว่าเขาจะทำเรื่องโหดร้าย คุณอาจต้องลองถามตัวเองดูว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มันสำคัญแค่ไหนสำหรับคุณ ถ้าขาดความเชื่อใจและความซื่อสัตย์แล้วละก็ คบกันไม่ยืดหรอก และจะไม่มีใครที่มีความสุขกับความรักครั้งนี้เลย
3 เคารพความเป็นส่วนตัวของเขา. คุณอาจคิดว่าแฟนในอุดมคติคือคนที่ใช้เวลากับคุณตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเองก็ต้องอยากอยู่คนเดียวหรือจำเป็นต้องมีเวลาส่วนตัวหรือใช้เวลากับเพื่อนฝูงบ้าง ถ้าเขาไม่ได้เพลินจนหายหน้าไปจากชีวิตคุณ ก็อย่าไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเขาเลยนะ[9]
คุณเองก็ยังอยากมีเวลาส่วนตัวบ้างใช่ไหมล่ะ? แหม ก็รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างสิ ถ้าเอาแต่หวงไม่ยอมปล่อยเขาไปมีเวลาส่วนตัวบ้าง แล้วจะมาเรียกร้องอะไรล่ะ?
อยากจะคบกันให้ยืดก็ต้องรู้จักมีพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ ตราบใดที่เขายังให้ความสำคัญกับคุณ — อย่างเวลาที่คุณต้องการเขา ให้เขามารับส่ง หรืออยากได้คนปลอบใจ — ก็จงพอใจซะเถอะ อยากบังคับใจให้เขามาอยู่กับคุณ ให้เขาอดใจไม่ไหวจนต้องมาตัวติดกับคุณเองดีกว่า
4 อย่าคาดหวังว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรเขาได้. ไม่ว่าจะเป็นคนดีขนาดไหน ก็ไม่มีแฟนของใครที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็คต์ คุณถึงได้อดใจไม่ไหวชอบจับผิดคิดอยากเปลี่ยนแปลงจุดนั้นจุดนี้ของเขาอยู่เรื่อยไป คุณจะสร้างแรงบันดาลใจให้เขาลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือเป็นกำลังใจให้เขาก็ได้ แต่อย่าได้คาดหวังว่าคุณจะเปลี่ยนเขาได้สำเร็จ ถ้าคุณไม่พอใจในสิ่งที่เขาเป็นละก็ แล้วจะมาคบเขาแต่แรกทำไม[10]
ถ้าแฟนของคุณขี้เกียจ หรือมาสายเป็นนิจ ไม่ก็ไม่มีอารมณ์ขันเท่าไหร่เลย คุณอาจจะลองเปิดอกคุยกับเขาดูก็ได้ แล้วให้กำลังใจถ้าเขาอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พึ่งพาได้ หรือเป็นคนละเอียดอ่อนกว่านี้ แต่ถ้าคุณถึงกับอยากเปลี่ยนตัวตนของเขา บางทีเขาอาจไม่ใช่คนคนนั้นที่คุณตามหาแล้วล่ะ