วันที่ 22 มิถุนายน 2559 จากกรณีพล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 แถลงข่าวจับกุมนายมะซอรี หรือบังยี ดาโอ๊ะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/11 หมู่ 5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ผู้ต้องหายิงนายวันชนะ ทิทึกทักษ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.1 วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี เสียชีวิตที่สระน้ำบ้านโคกคำปากั้ง หมู่ 15 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ซึ่งตำรวจได้มุ่งประเด็นไปที่เรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี มีหญิงสาวมาติดพันมากมาย ทั้งโสดและไม่โสด อาจจะทำให้ผู้ที่หมายปองไม่พอใจ ลวงออกมาฆ่า จนทราบว่าผู้ตายไปติดพันกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ภรรยานายมะซอรี ผ่านทางเฟซบุ๊กจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ทำให้นายมะซอรีแค้น และวางแผนล่อผู้ตายออกมาตกลงเรื่องรักสามเศร้าและยิงทิ้ง
อวสานรักสามเศร้า คดีสะเทือนใจสังคมออนไลน์ สุดท้ายชู้ตาย ผัวติดคุก!! (มีภาพ)
พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 ได้นำกำลังเข้าจับกุม ขณะนั่งอยู่ในรถกระบะที่หน้าตลาดบ้านหนองหิน ริมถนนอุดร-หนองบัวลำภู ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี แต่นายมาซอรีได้ขับรถหนี โดยใช้ลูกสาววัย 1 ขวบ 6 เดือน เป็นโล่กำบัง แต่ตำรวจได้ไล่ติดตามและยิงยางรถแตก บริเวณถนนริมคลองส่งน้ำห้วยหลวง บ้านเชียงพิณ ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นคนร้ายได้ยิงต่อสู้ก่อนทิ้งลูกหลบหนีไปได้ แล้วคนร้ายได้ย้อนกลับมาบ้านเช่าภายในหมู่บ้านร่มเย็น ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี จึงถูกจับได้พร้อมปืนขนาด .45 กระสุน 19 นัด นำตัวไปแถลงข่าว ที่ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น
ต่อมา เวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจได้ควบคุมตัวนายมะซอรี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกบริเวณถนนภายในบ้านหนองไฮ ทางเข้าบ้านนายวันชนะผู้ตาย ซึ่งหลังผู้ต้องหาจับได้ว่า น.ส.เอ ภรรยาลักลอบคบหากับผู้ตาย ผ่านทางโปรแกรมบีทอล์กและเฟซบุ๊กเป็นประจำ จึงใช้เฟชบุ๊กของภรรยาคุยล่อให้ผู้ตายออกมาหา และบังคับให้ น.ส.เอ ขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ผจ 9026 อุดรธานี มารับผู้ตายที่หน้าบ้าน โดยมีนายมะซอรี ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมา แล้วขับปาดหน้าใช้ปืนบังคับให้ไปเคลียร์ปัญหารักสามเศร้าที่บ้านเช่า
ตำรวจนำตัวนายมะซอรี ลงจากรถเก๋งมาชี้จุดจอดรถ ก่อนจะรีบนำขึ้นรถ เพราะเกรงว่า ชาวบ้านและญาติผู้ตายประมาณ 500กว่า คน ที่มายืนรอดูการทำแผนพร้อมกับยืนถือป้าย โทษประหารชีวิต และตะโกนสาปแช่งฆาตกรพร้อมกับจะกรูเข้าจะไปทำร้าย ตำรวจต้องรีบนำตัวออกจากบริเวณทันที จากนั้นได้นำตัวไปชี้จุดที่ 2 บริเวณบ้านเช่าของฆาตกร เพื่อนำตัวมาพูดคุยตกลงกัน ก่อนให้ผู้ตายเลือกว่าจะให้ผู้ตายฆ่า น.ส.เอ เองหรือให้นายมะซอรีฆ่า
จากนั้นนายมะซอรีฆ่า พาผู้ตาย น.ส.เอ และลูก ขึ้นรถกระบะไปที่สระน้ำบ้านคกคำปากั้ง หมู่ 15 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี แล้วนายมะซอรี สั่งให้ผู้ตาย ลงจากรถ แล้วทำทียื่นปืนให้ผู้ตายไปยิง น.ส.เอ ที่นั่งอยู่ในรถปิกอัพ ขณะผู้ตายกำลังเอื้อมมือจะมาเอาปืนกับ นายมะซอรี แต่นายมะซอรี ได้ยิงผู้ตายที่หน้าอก 1 นัด แล้วผู้ตายพยายามจะวิ่งหลบหนี แต่นายมะซอรีไม่รอช้าได้ยิงซ้ำอีก 1 นัด ที่ขมับ ก่อนจะขึ้นรถปิกอัพหลบหนีไป จนกระทั่งมาทราบข่าวตอนเช้าว่าเสียชีวิตในสระน้ำ แล้วนายมะซอรี ได้นำรถไปดัดแปลงและใช้ชีวิตกับภรรยาตามปกติ จนกระทั่งมาถูกตำรวจสืบรู้จับกุมได้ดังกล่าว
นางผ่องศรี ลุบ อายุ 48 ปี แม่นายวันชนะผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังจากทำพิธีฌาปณกิจแล้ว ตนฝันเห็นลูกชาย เดินมาหาตนที่บ้าน มีหน้าตายิ้มแย้มไม่อาฆาตใคร เหมือนรู้สึกดีใจที่ตำรวจจะจับฆาตกรได้ ลูกตนเป็นคนดี ไม่ต้องการให้ฆาตกรมาขอขมา เพราะตนไม่อโหสิกรรมให้อย่างแน่นอน เนื่องจากเขาเป็นคนโหดร้าย มาเรียกลูกตนออกไปฆ่าอย่างเลือดเย็น อยากเรียกร้องให้ประหารอย่างเดียวเท่านั้น พร้อมกับเมียของฆาตกรด้วยดังกล่าว
Credit : http://www.aroundnews.net/?p=8717