ตะลึง! เจออีกยาจกเงินล้าน วัย 84 ปี พบเป็นศพในเพิงพักหลังวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการมีเงินฝากในบัญชี 1.3 ล้านบาท โฉนดที่ดิน 2 ไร่ 2 แปลง ใน จ.เชียงใหม่ และเอกสารบริจาคดวงตาให้สภากาชาดไทย ด้านพระลูกวัดเผยผู้ตายเคยรับราชการ ตำแหน่งคนขับรถที่กรมสรรพสามิต หลังเกษียณอายุ ได้มาทำบุญแล้วปักหลักอยู่ที่วัดมานาน 24 ปี ยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย ระบุเคยบริจาคเงิน 7-8 ล้านบาท สร้างสะพานและซื้อข้าวให้วัด ตร.เตรียมหาญาติมาจัดการมรดก
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ร.ต.อ. สหัสพล พุ่มอิ่ม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีชายเสียชีวิตหลังกุฏิพระภายในวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักชั้นเดียว ปลูกสร้างอยู่หลังกุฏิพระ เลขที่ 0/2 ซอยศูนย์ จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบเศษของเก่าคล้ายขยะวางเกลื่อนเต็มบ้าน ส่วนภายในห้องน้ำพบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายองอาจ ราชวงษ์ อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/31 ถนนวุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้องน้ำ สภาพสวมกางเกงนอนขายาวสีกรมท่า ไม่สวมเสื้อ ร่างกายเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วห้อง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าภายในบ้านพักมีร่องรอยการ ต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สินหรือไม่ เนื่องจากมีแต่เศษขยะกระจัดกระจายอยู่เต็มบ้าน เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 วัน
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบเอกสารส่วนตัวของผู้ตาย หลังทราบว่าผู้ตายฝากเอาไว้กับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ซึ่งพักอยู่ในกุฏิภายในซอยเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายเคยรับราชการอยู่ที่กรมสรรพสามิต ตำแหน่งพนักงานขับรถ ซึ่งเกษียณอายุราชการมาได้ 24 ปี นอกจากนี้จากการตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคารออมสินของผู้ตายพบว่ามีเงินฝากอยู่ 1,340,000 บาท และโฉนดที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ 2 ไร่ 2 แปลง รวมทั้งเอกสารการอุทิศอวัยวะดวงตาให้กับสภากาชาดไทย เพื่อใช้ประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไว้ไปตรวจสอบ
จากการสอบ ถามนายสมมาท วงษ์บุญรอด ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ผู้ตายมาพักอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้มานานนับ 10 ปี โดยได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวซึ่งอยู่หลังกุฏิพระ โดยปกติจะเห็นผู้ตายทุกวัน แต่จู่ๆ ผู้ตายได้หายตัวไปได้เกือบ 2 อาทิตย์ และมีพระลูกวัดมาแจ้งกับตนว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบ้านที่ผู้ตายพัก อาศัยอยู่เกรงว่าจะมีเหตุร้าย ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ กระทั่งพบว่า ผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าวแล้ว
ขณะที่พระสงฆ์รูป หนึ่งซึ่งเป็นพระลูกวัดอโศการาม กล่าวว่า ผู้ตายเคยทำงานอยู่ที่กรมสรรพสามิตมาก่อน หลังเกษียณอายุราชการ ผู้ตายได้มาทำบุญที่วัดแห่งนี้ แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบผู้ตายก็ได้มาขอพักอยู่ที่วัด โดยได้นำเอกสารฝากให้พระอาจารย์ซึ่งเป็นพระลูกวัดเก็บเอาไว้ ที่ผ่านมาผู้ตายได้มอบเงินสร้างสะพานและซื้อข้าวให้วัดเป็นเงิน 7-8 ล้านบาท และขณะอยู่ที่วัดผู้ตายก็ได้เก็บขวดน้ำและเก็บของเก่าขาย เมื่อได้เงินมาก็มอบให้วัดทั้งหมด และผู้ตายยังมีเงินบำนาญอีกก้อนหนึ่งซึ่งไม่เคยได้ใช้ เก็บไว้ในบัญชีธนาคารล้านกว่าบาท โดยได้ฝากเอาไว้ที่พระอาจารย์อีกด้วย
เบื้อง ต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากความชราภาพ จนทำให้จังหวะที่ ผู้ตายเข้าห้องน้ำเกิดเสียหลักลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้นจนเสียชีวิตดังกล่าว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริง และส่งศพผู้ตายไปชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ว่าถูกฆาตกรรมหรือเสียชีวิตเอง พร้อมทั้งประสานญาติให้มาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีตามศาสนา รวมทั้งจัดการทรัพย์สินต่อไป
