9 เหตุผลว่าทำไมคนที่มีสัตว์เลี้ยงจึงสุขภาพดีและมีความสุขกว่าใครๆ
Posted by Unknown
Posted on 8:53 PM
ในที่สุดการศึกษาเกี่ยวกับบรรดาผู้รักสัตว์ทั้งหลายก็พบว่าสัตว์เลี้ยงช่วยเสริมสร้างสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้เลี้ยงให้แข็งแรง และนี่คือตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งนี้
. ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีสัตว์เลี้ยงจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าผู้ที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์
. สัตว์เลี้ยงจะช่วยเพิ่มระดับออกซิโทซินกับเซโรโทนินให้สูงขึ้น
. ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์มีแนวโน้มที่จะรับประทานอาหารง่ายขึ้นเมื่อมีตู้ปลาวางอยู่บนโต๊ะหรือใกล้เคียงในรัศมีที่พวกเขาสามารถมองเห็นปลาว่ายน้ำได้
. การบำบัดด้วยสุนัขทำให้เกิดผลลัพธ์อันน่าทึ่งสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้าย
และนี่คือ 9 คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพของการมีสัตว์เลี้ยง
1. ผู้ที่อาศัยอยู่กับสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มที่จะมีความสุขมากกว่าและรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยกว่า
สัตว์เลี้ยงจะช่วยสนับสนุนการมีเป้าหมายในชีวิตและเพิ่มความรู้สึกมั่นใจในตัวเองแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ตาม ขณะเดียวกันผู้ป่วยโรครุนแรงที่มีสัตว์เลี้ยงก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าและรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยกว่าด้วย
2. การเลี้ยงสัตว์ช่วยให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
การเลี้ยงแมวหรือสุนัขจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนผ่อนคลายและยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนความเครียดซึ่งทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์จะมีระดับความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้เลี้ยง
3. การเลี้ยงสัตว์ทำให้ระดับคลอเรสเตอรอลลดต่ำลง
ต่อให้ไม่มีสัตว์เลี้ยงคุณก็ต้องระมัดระวังในเรื่องการเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกาย รวมถึงการทำสมาธิด้วย อย่างไรก็ตามผู้ที่เลี้ยงสัตว์จะมีระดับคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้เลี้ยง
4. การเลี้ยงสัตว์มีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพหัวใจ
การเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะสุนัขจะช่วยทำให้อายุยืนยาวและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เนื่องจากความดันโลหิต ระดับคลอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์จะลดต่ำลง นอกจากนี้การออกกำลังกายและการเลี้ยงสุนัข (หรือแมว) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ผู้ที่ไม่เคยเลี้ยงแมวมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่เลี้ยงแมวมากถึงร้อยละ 40
5. สัตว์เลี้ยงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ต่างๆ
การศึกษาพบว่าสัตว์ต่างๆโดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงไว้ในบ้านสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับมนุษย์ในการป้องกันโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ต่างๆ นอกจากนี้ทารกที่ถูกเลี้ยงในครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ หวัด และหูอักเสบในช่วงปีแรกน้อยกว่าทารกที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงภายในบ้านอีกด้วย
6. สัตว์เลี้ยงช่วยขจัดอาการซึมเศร้าได้
ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่บรรดานักบำบัดใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้า ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ย่อมรู้ดีว่าไม่มีใครรักพวกเขามากไปกว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไรสัตว์เลี้ยงของคุณก็อยู่เคียงข้างเสมอ แถมพวกมันยังช่วยลดความรู้สึกเครียดและการซึมเศร้าที่เกิดจากอาการป่วยรุนแรงได้ด้วย
7. สัตว์เลี้ยงจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ
ปกติคนเราไม่ยอมเดินเพื่อสุขภาพของตัวเองหรอก แต่สุนัขสามารถทำให้พวกเขามีกำลังใจในการเดินวันละ 30 นาทีหรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว ที่สำคัญโรคอ้วนคือปัญหาอันดับต้นๆของสัตว์เลี้ยงและการประกอบกิจกรรมที่มากขึ้นในแต่ละวันระหว่างคุณกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยป้องกันโรคอ้วน โรคกระดูกพรุน และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ดังนั้นคุณกับสัตว์เลี้ยงก็จะได้เป็นเพื่อนออกกำลังกายไปด้วยกัน!
8. สัตว์เลี้ยงช่วยให้ทั้งเด็กและวัยรุ่นหนุ่มสาวสามารถเอาชนะขีดจำกัดได้
เด็กๆที่ป่วยเป็นออทิสติกจะได้รับประโยชน์จากการที่มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน สายสัมพันธ์ระหว่างเด็กๆกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ พร้อมทั้งทำให้รู้สึกสงบและปลอดภัยด้วย เด็กๆที่ป่วยเป็นออทิสติกจะมีปัญหาในเรื่องประสาทสัมผัสทำให้การสื่อสารของพวกเขาซับซ้อนกว่าปกติ แต่ดูเหมือนว่าสัตว์เลี้ยงก็มีความสามารถอันน่าทึ่งในการดึงความสนใจจากเด็กๆเหล่านี้ พวกมันจะช่วยให้เด็กๆคุ้นเคยกับการสัมผัส ดมกลิ่น และฟังเสียง
9. การเลี้ยงสัตว์สามารถพลิกชีวิต (หรือแม้กระทั่งช่วยชีวิต) ของผู้ป่วยโรครุนแรงได้
เนื่องด้วยประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่เฉียบแหลมของสุนัขทำให้พวกมันสามารถสร้างปาฏิหารย์ได้หลายอย่าง เช่น ตรวจจับโรคมะเร็ง รู้แม้กระทั่งอาการชัก และเตือนว่าระดับน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ ซึ่งทำให้เจ้าของมีเวลามากพอที่จะรับประทานอาหารว่างเพื่อให้กลูโคสอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ สุนัขบางตัวจะได้รับการฝึกให้เห่าเตือนเจ้าของเมื่อลูกๆของพวกเขามีอาการชักอยู่นอกบ้านหรือในอีกห้องหนึ่ง ขณะที่สุนัขฝึกเฉพาะกิจก็ทำให้ผู้ป่วยพาร์คินสันสามารถใช้ชีวิตโดยการพึ่งพาตัวเองได้ พวกมันสามารถเก็บวัตถุที่ตกหล่นหรือร้องขอสิ่งที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังช่วยเปิด-ปิดประตูและเปิด-ปิดไฟได้ด้วยอุ้งเท้าน้อยๆ ที่สำคัญสุนัขเหล่านี้สามารถสัมผัสได้เมื่อผู้ป่วยโรคพาร์คินสันมีอาการก้าวขาไม่ออกและจะใช้เท้าสะกิดเพื่อให้ผู้ป่วยก้าวเดินต่อไป\
Blogger : Dr. Jeff Werber
Source : mindbodygreen.com