สำหรับคุณผู้ชายที่ยังมัวหลงระเริง เล่นสนุกจนเป็นนิสัย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ต้องระวังให้ดี คุณอาจจะเสี่ยงเป็นโรคเริม ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และอาจทำให้คู่นอนของคุณพลอยซวยไปด้วย ซึ่งปัจจุบันพบว่าน้อยคนนักที่จะป้องกันตัวเอง โปรดสละเวลาซักนิดแล้วชีวิตจะปลอดภัย
โรคเริมที่อวัยวะเพศ (Herpes) โรคเริมที่อวัยวะเพศเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อ Herpes Simplex Viruses ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้ออยู่แล้ว ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคดังกล่าว เพราะมันจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย อย่างไรก็ดี ผู้ชายมักจะพบตุ่มใส ๆ ขึ้นมากมายบริเวณต่าง ๆ เช่น อวัยวะสืบพันธุ์ ก้น ถุงอัณฑะ ทวารหนัก ผิวหนังที่ขาอ่อน และภายในท่อปัสสาวะ รวมถึงโรคเริมที่ปากสามารถติดต่อด้วยการจูบได้ ทั้งนี้ โรคเริมเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ เพราะเชื้อของมันจะซ่อนในร่างกายและจะกำเริบขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอ
อาการของโรคเริม
เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน หรือกำลังมีอาการของโรคนี้อยู่ อาการเริ่มแรกจะมีตุ่มน้ำพองใสเป็นกลุ่ม มีอาการปวดแสบและคันมาก ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกออกเป็นแผล เมื่อแผลหายแล้วเชื้อไวรัสยังคงหลบซ่อนในปมประสาท และโรคจะกลับเป็นอีกเมื่อมีปัจจัยส่งเสริมบางอย่าง เช่น ความเครียด ภาวะขาดอาหาร แสงแดด การเสียดสีของผิวกับเสื้อผ้า เช่น กางเกงที่คับๆ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ได้รับการติดเชื้อครั้งแรกจะเกิดอาการหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 2 สัปดาห์แผลจะใช้เวลาหายใน 2-4 สัปดาห์ นอกจากนั้นจะมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ในปีแรกอาจจะมีการกลับเป็นซ้ำ 4-5 ครั้งต่อปี หลังจากนั้นความถี่ของการเกิดซ้ำจะลดลง
วิธีปฏิบัติตน
1.รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศในระหว่างมีตุ่มน้ำมีแผลควรทำความสะอาด โดยแช่นำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง และซับให้แห้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
2.งดการมีเพศสัมพันธ์หรือสัมผัสโดยตรงกับแผล
3.ในรายเป็นครั้งแรกในระยะตุ่มน้ำควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และในรายเป็นซ้ำๆ ก็ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่นอนเช่นกัน
4.หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้โรคกำเริม เช่น อารมณ์เครียด แสงแดด การเสียดสีของผิวกับเสื้อผ้า