
ที่บ้านพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต นายคำภา เหล่าอุดี อายุ 64 ปี บิดา และนางจันที เหล่าอุดี อายุ 60 ปี มารดาของ น.ส.ปราณี และญาติพี่น้องต่างอยู่ในอาการโศกเศร้า กำลังเตรียมรอรับสถานที่รอรับศพที่กำลังเดินทางมา
นายจันที เปิดเผยว่า น.ส.ปราณี เป็นลูกสาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน ผู้ตายทำงานที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด อยู่ฝ่ายสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยทำงานดังกล่าวมานาน 10 ปี แต่งงานแล้วกับ พ.จ.อ.สำราญ เร่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร วันหยุดจะกลับไปหาสามีที่ทำงานอยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ
ปกติหลังเลิกงานจะนั่งรถเมล์กลับไปที่บ้านพักธนาคารในกรุงเทพฯ หากวันไหนไม่สบายใจก็จะลงรถเมล์แวะไปไหว้ศาลพระพรหมก่อนกลับบ้าน เมื่อวานก็ได้แวะกราบท้าวมหาพรหม แต่โชคร้ายโดนระเบิดพร้อมกับคนอื่นๆ ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่ขาด้านซ้าย ถูกนำตัวส่งรพ.จุฬาฯ
นางจันที กล่าวทั้งน้ำตาว่า ระหว่างเกิดเหตุเห็นข่าวออกทีวี เป็นห่วงลูกสาวจึงได้โทรศัพท์ไปหาผู้ตาย เพราะเป็นเวลาเลิกงานและเป็นทางกลับบ้าน โทรติดแต่ลูกสาวไม่รับ ยิ่งทำให้กังวลใจ รอให้ลูกสาวโทรกลับมาเหมือนทุกครั้ง ประมาณ 3 ทุ่ม มีเบอร์ลูกสาวโทรกลับก็ดีใจ แต่เป็นตำรวจโทรมาสอบถาม ตนจึงบอกไปว่าเป็นแม่ ตำรวจจึงบอกความจริงว่า น.ส.ปราณี โดนระเบิดตายแล้ว ตนเสียใจแทบเป็นลม
ทั้งนี้ ปกติลูกสาวกลับบ้านที่บึงกาฬปีละ 1 ครั้ง ในวันปีใหม่ของทุกปี แต่ปีนี้กลับมาเยี่ยม 2 ครั้ง ล่าสุดมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค.-3 ส.ค. เพิ่งกลับไปไม่กี่วัน บอกกับพี่น้องว่าปีนี้มีความสุขมากที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านถึง 2 ครั้ง น้องๆ อยู่พร้อมหน้ากันหมดทั้ง 5 คน จึงตัดสินใจลางานต่ออีกวัน จากเดิมว่าจะกลับวันที่ 2 ส.ค.เลื่อนไปเป็น 3 ส.ค.
ก่อนกลับได้มีคำพูดเป็นลางว่า สงสัยจะได้อยู่บ้านตลอดแล้ว เพราะเมื่อคืนฝันว่าได้รับซองขาวจากผู้บริหารของธนาคารให้ลาออก ซึ่งนางจันทีไม่นึกว่านั่นคือลางบอกเหตุ และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกับลูกสาว
เครดิตข่าว : สำนักข่าวไทย
ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ