
จากนั้นเราก็นอนรอความเจ็บปวดค่ะ ก็เจ็บอยู่เป็นระยะๆ แต่อาการเมื่อยเมื่อเข้าวันที่สาม จะทรมานกว่าการเจ็บแผลแล้วค่ะเพราะมันเมื่อยมากจริงๆ หวังว่าตอนนี้หมอคงจะซื้อเตียงใหม่มาแล้วนะคะเพราะเตียงเดิมเราให้คะแนนติดลบค่ะ
เรานี่อยากนอนตะแคงมาก แต่หมอก็ห้ามค่ะเราเลยมีแอบเอียงๆบ้างเล็กน้อยแอบขอหมอนข้างมารองปลายเท้าด้วยเพราะมันเมื่อยไปทั้งตัวเลยค่ะ ทรมานจังเลยอ่ะ คือเราเป็นคนชอบนอนตะแคงมาก แต่ต้องมานอนหงายห้าวันติดคิดดูนะคะว่าจะทรมานมากแค่ไหน
สิ่งต่างๆก็ดูจะวนไปอย่างนั้นค่ะ เหมือนดูละครวนไปวนมายังไม่รู้ตอนจบ และวันพฤหัส เป็นวันที่เราดีใจมากๆ เพราะว่าเราจะได้ยืนค่ะ! ผู้ช่วยพยาบาลถามเราว่าอยากจะยืนไหม เราบอกว่าอยากค่ะ อยากมากที่สุด นอนท่าเดียวเมื่อยแล้วเมื่อยอีก
แต่คิดดูนะคะคนนอนราบมาสี่วันติด จะมายืนมันจะเกิดอะไรขึ้น เราจะเป็นลมค่ะ! จะนั่งก็นั่งไม่ได้นะคะเพราะว่าสายเลือด สายฉี่ที่โยงใยออกมาจากอวัยวะเพศใหม่ของเรามันจะเจ็บมากถ้าหากนั่งทับ เราก็นั่งแบบเบาๆและมีพี่พยาบาลอีกคนพยุงไว้ค่ะ ในมือก็ดมยาดมแบบจะเป็นลม
ตอนแรกร้องขออยากยืน ที่นี้ขอให้ปูเตียงเสร็จไวๆทีเถิด อยากกลับขึ้นไปนอนตอนนี้รู้สึกตัวหนักมากค่ะ พอได้นอนเท่านั้นสบายมากกกกกกก เอิ่ม แปลกมากค่ะ ฮาๆๆๆๆ
ตอนเหตุการณ์หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากค่ะ นอน นอน นอน แต่การถ่ายอุจาระไม่มีนะคะ เพราะไม่ได้กินอะไรเลยกินแต่น้ำกับนม เพิ่งจะได้กินโจ๊กก็ตอนเข้าวันที่4ค่ะ เพราะว่ากินเยอะไม่ได้ หมอเองก็ไม่อยากให้มีการขับถ่ายเกิดขึ้นค่ะ
ทุกอย่างเหม็นไปแต่ยาค่ะ ยาเหม็นมากกกกกกกกกกกกก ปากเหม็นแต่ยา ฉี่พี่พยาบาลที่จะเอาถุงฉี่ไปทิ้งก็บอกว่าเหม็นแต่กลิ่นยาค่ะ เอิ่มเกลียดยาไปเลยช่วงนั้น
แต่ช่วงเย็นก็เป็นวันดีอีกวันของวันพฤหัสบดีวันที่สี่ของการนอนที่คลีนิคค่ะ เพราะย่ามาเยี่ยมหลังจากที่นอนอยู่คนเดียวกับพี่พยาบาลตลอด ย่ามาจากขอนแก่นก็มาหาและถามว่าเป็นไงบ้างเราก็บอกว่าแผลเริ่มหายแล้วแต่เมื่อยและเจ็บแขนข้างขวา และอึดอัดในรูค่ะ
มันก็ทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้นค่ะ แต่ก็ยังทรมานกับการนอนติดเตียงค่ะ นี่เข้าใจคนเป็นอัมพาตหรือนอนไปไหนไม่ได้เลยค่ะ คือรับรู้ว่ามันทรมานจริงๆค่ะ
โอเคหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากแล้วค่ะ ตอนแรกดีใจค่ะว่าผ่านพ้นช่วงที่ทรมานมาได้แล้ว แต่คิดผิด เพราะความทรมานซีซั่น2 ยังมาไม่ถึงค่ะ!
ตัดฉากไปที่วันเสาร์ตอนเช้าเลยนะคะ เพราะวันศุกร์ก็แบบเดิมนอนติดเตียงไม่ได้ทำอะไรค่ะ วันเสาร์วันสุดท้ายก่อนจะกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านของอาตรงบางบัวทอง
เราดีใจมาก ตื่นมาแต่งหน้าเลยค่ะ hahahaha หลังจากที่ไม่ได้แต่งหน้ามานาน ฮาๆๆๆ

เป็นไงคะฝีมือแต่งหน้าด้วยมือข้างเดียว! คิอแบบว่าดีใจอ่ะค่ะ แล้วมือขวาชาจับอะไรไม่ได้เลยตอนนั้น แต่งหน้ากับมือที่ไม่ถนัดด้วยค่ะ ยังไงถ้าใครสนใจเราจะสอนให้นะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ขำตัวเองมาก
ตอนนั้นพี่พยาบาลเข้ามาแล้วตกใจ ถามว่าอ้าวแต่งหน้าเหรอ เราบอกว่า ค่ะพี่ ฉลองจะได้กลับบ้าน พี่เขาขำใหญ่เลย แล้วเวลาระทึกก็มาถึง พี่เขาบอกว่าจะล้างแผล ถอดสายฉี่สายเลือด ล้างแบบเต็มสตรีม
เราก็กลัวๆนะ เพราะคงจะเจ็บแน่นอนแผลเพิ่งจะห้าวันเองค่ะ ก็มีรถมารับค่ะ เป็นรถเข็นคันใหญ่มากๆค่ะ อธิบายไม่ถูกเลยค่ะ แต่ใหญ่มาก เราก็นั่งแบบมีห่วงยางรองค่ะ ที่บนคลีนิคจะมีลิฟท์ขนส่งผู้ป่วยจากชั้นสามไปชั้นสองนะคะ เพราะตอนนั้นเราเดินไม่ได้ขาอ่อนมากค่ะเดินก็ล้มแน่ๆ
เราก็ไป…เข้าไปห้องผ่าตัดใหญ่อีกแล้วกลัวมาก ยังบอกหมอเลยค่ะว่าเหมือนกลับมาที่เก่าสูงสุดคืนสู่สามัญ พี่พยาบาลบอกหมอว่าเราแต่งหน้า หมอก็่ถามว่าแต่งหน้าทำไมจะให้ใครดู
เราก็บอกว่าหน้าดำมานานแล้ว อยากสวยบ้าง หมอเลยบอกว่าตอนนี้หน้าไม่ดำเหรอ เราฮากันใหญ่เลยค่ะ ก็ขำๆนะคะปกติหมอแกอารมณ์ดีชอบพูดเล่นค่ะ
ช่วงวินาทีระทึกมาถึงแล้ว หมดเวลาสนุกแล้วซี หมอให้เราเอาขาขึ้นขาหยั่ง อ้าขาแล้วบนหัวของหมอก็มีไฟฉายมาส่องด้วยค่ะ พี่พยาบาลก็บอกว่าไม่ต้องกลัว ตอนนั้นเราร้องว่า กลัวอ่ะ หมอทำเบาๆนะ
เราร้องแบบกลัวพี่พยาบาลก็มาจับมือเราบอกว่าอย่ากลัวไปเลยไม่เจ็บ หมอเปิดแผลออกมา มีแต่คนบอกว่าสวยๆ สวยแล้ว คือเหมือนให้กำลังใจอ่ะค่ะไม่อยากให้เราคิดไปถึงแผลว่าจะเจ็บ
ตอนนั้นรู้สึกเย็นมากค่ะหมอเอาน้ำเกลือมาราดที่แผล น้ำเกลือแบบไม่แสบนะคะ เราเย็นสบายมากแล้วรู้สึกเสียวมากเสียวแบบเสียวจริงๆค่ะ ไม่เจ็บนะคะแต่เสียวมากๆเลย ยิ่งตอนมาเอาผ้าก็อตชุบเบตาดีนมาทาที่แผลเรา โอ๊ย ซี๊ดดดดดดดดดดดด เสียวมาก คือรู้เลยว่าเส้นประสาทไม่หายไปเลยค่ะ
ตอนนั้นยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าดีใจมากๆที่ยังรู้สึกแม้แต่ตอนล้างแผล คือเสียวทุกที่เลยอ่ะค่ะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และวินาที ที่หมอดึงสายฉี่ออกมาก็ไม่ได้บอกเราเลยค่ะ มัวแต่เสียวอยู่ก็เลยไม่ได้ตั้งตัว แบบรู้สึก ผลั่ว แบบ อารมณ์เหมือนเราถอดปลั๊กไฟอ่ะค่ะ ผลั่วๆๆๆๆๆๆ อย่างนี้อ่ะ
ดึงออกแล้วเย็นๆ มีน้ำตามออกมา เหมือนโดนน้ำเย็นราดอีกครั้ง ตอนดึงสายฉี่ออกมาเจ็บค่ะแต่ไม่เจ็บมาก เจ็บแบบผลั่วๆ ดึงปลั๊กแล้วโล่งนิดนึง
มาถึงตอนถอดสายเลือด จะมีสองอันค่ะสองข้างข้างซ้ายและขวา รู้สึกเหมือนหมอตัดไหมเย็บตรงสายเลือดค่ะ ตัด กรึบๆแล้วดึงออกมาเจ็บนิดนึง เจ็บกว่าตอนถอดสายฉี่แต่แป๊บเดียวค่ะ เจ็บพอให้สะดุ้ง
จากนั้นยังไม่จบค่ะ หมอบอกว่าจะดึงผ้าก็อตที่อยู่ในช่องคลอดเทียมออกมาแล้วนะ ตอนนั้นเรารู้สึกเจ็บมากตอนช่วงแรกค่ะ เหมือนมีมีดหรือเข็มใหญ่ๆมาแทงที่รูของเราอ่ะ เราเจ็บมากเจ็บจนจับแขนพี่พยาบาลไว้แน่นเลยค่ะ แล้วสักพักเหมือนหมอเปิดรูมั้ง? อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ แล้วหมอก็ดึงผ้าก็อตออกมาแบบ ฟืดๆๆๆๆๆๆ ฟืดๆๆๆๆๆๆ เสียดังอย่างนี้เลย ในตัวเรารู้สึกเหมือนโดนดึงใส้อ่ะค่ะ เหมือนดึงอะไรออกมา ให้ลองนึกภาพดุงกระดาษทิชชู่ในกล่องห้องน้ำในห้างดูค่ะ แบบดึงเร็วๆอ่ะค่ะ ความรู้สึกว่ามันยาวมาก เหมือนมานานมากอ่ะค่ะ ฝืดดดดดดดดดดดด ฝืดดดดดดดดด
ตอนนั้นไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่เสียวอ่ะ กลัวเจ็บกลัวไปหมดเหมือนเราไม่เคยรู้ว่าต้องโดนอย่างนี้ พอมาโดนกับตัวก็เลยรู้สึกค่ะ ฝืดดดดดดดด ฝืดดดดดดดดด ฮาา ตอนนี้ยังจำได้อยู่เลยเสียงแบบนี้จริงๆ
พอหมดแล้วรู้สึกโล่งมาก! คือแบบว่า โล่งมาก ขอบคุณพระเจ้าตอนนั้นเรายิ้มออกมาแบบดีใจอ่ะค่ะ ไม่คิดว่าจะผ่านพ้นมันมาได้ แต่….ยังไม่จบนะคะ รู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง ตอนที่หมอเอามือหรือนิ้วเข้าไปข้างในช่องของเราเหมือนจะทำอะไรสักอย่าง เราเจ็บมากเหมือนเข็มหรือเหล็กทิ่มลงมาข้างล่าง ช่วงรอยต่อระหว่างก้นกับจิ๋มอ่ะค่ะ
เจ็บจนบอกหมอว่าพอแล้วค่ะหนูเจ็บ หมอก็บอกว่าแค่นิ้วเองนะทำไมเจ็บอ่ะ เราก็บอกว่าเจ็บจริงๆค่ะไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หมอก็เลยหยุดไปค่ะ หลังจากนั้นก็เหมือนหมอเอาแท่งเหล็กใส่เข้าไปอ่ะค่ะ เหมือนแท่งง้าง เรามีรูปให้ดูด้านล้างนี้นะคะ ไว้ใช้ง้างดูภายในว่าแผลติดดีไหมที่ต่อกราฟไป

เริ่มจากเล็กไปใหญ่ จากขวาไปซ้ายค่ะ ขนาดใหญ่สุดด้านซ้ายคุณหมอจะให้เรามาด้วยค่ะ ตอนโมวันแรกนะคะ เจ็บมากหมอใส่ให้ค่ะ เจ็บมากเพราะดันเข้าไปทีเดียวเลย เรานี่จิกแขนพี่พยาบาลทุกวันค่ะ หมอโมให้ทุกวันค่ะและล้างแผลด้วยค่ะ ได้พบหมอทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
ตอนแรกหมอบอกว่าจะโมให้แค่อาทิตย์เดียวแล้วจะให้เราโมเอง เพราะถ้าโมเองได้ก็จะได้กลับบ้าน แต่เราไม่กล้าค่ะเพราะว่ากลัวเจ็บมาก และที่สำคัญคือ เจ็บมากค่ะ หมอมือหนักด้วยค่ะ ใส่ไปแบบรวดเดียวเลยเจ็บมากทำให้เรากลัวการโมมากค่ะ
แต่ก็ต้องไปทุกวันเพราะว่าต้องล้างแผลด้วยค่ะ ตอนล้างแผลนี่ไม่เจ็บค่ะ มันเสียวๆอ่ะค่ะ คือพอเอาผ้าก็อตไปถูตรงนั้นก็เสียวมากค่ะ เสียวแบบร้องครวญครางอ่ะค่ะ ฮาๆๆๆ
แล้วตอนล้างข้างในก็แอบเสียวตอนยัดผ้าก็อตแบบยาวๆชุบเบตาดีนใส่เข้าไปในช่องของเราค่ะ เสียวตอนดึงออก ฝืดดดด ฝืดดด เสียงอย่างนี้เลยค่ะ
เราอยู่ให้หมอโมให้เกือบ3อาทิตย์เลยค่ะ เปลืองค่าแท็กซี่มากเลยตอนนั้น จนทำให้เราคิดว่าเอ่อ….ต้องโมเองแล้วล่ะ ลองดู…แล้วเราก็ทำใจโดยการโมเอง
ตอนโมก็ต้องเอากระจกไว้ตรงหว่างขาด้วยนะคะ เพราะมองไม่เห็นรู กลัวโดนแผลค่ะเพราะช่วงเดือนแรกแผลเน่ามากค่ะ…เราก็ผ่อนคลายและใส่ช้าๆ ช้าๆๆ เบาๆ
ใส่ได้! และไม่เจ็บเลย! พระเจ้า ตอนนั้นเราดีใจมากและก็เสียใจที่มัวแต่กลัวอยู่ ถ้าโมเองแต่แรกก็คงไม่ต้องทนเจ็บจากหมอนานขนาดนี้ค่ะ ใครจะไปแปลงเพศ พอหมอบอกว่าจะให้โมเองนะ อย่ากลัวนะคะรีบโมเองเลยเพราะเราจะรู้มือตัวเอง จะไม่ทำให้ตัวเองเจ็บค่ะ
และสิ่งที่เราค้นพบคือ หมอมักจะให้เราอ้าขาและชันเข่าขึ้นตอนนอนแยงโม แต่เราค้นพบว่านอนราบขาราบกับพื้นเตียงจะใส่โมได้ง่ายและลึกกว่าค่ะ
ตอนนี้เราก็ต้องโมทุกวันค่ะ ช่วงสามสี่เดือนแรกโม วันละสองครั้งเช้าและเย็น แต่หลังจากหกเดือนไปแล้วโมวันละครั้งก็ได้ค่ะ ครั้งละครึ่งชั่วโมงเพราะถ้าเราไม่โมจะทำให้ความลึกลดลงและตันในที่สุด

นี่คือโมที่เราต้องใส่ตลอดค่ะ
เวลาเรากลับมาโมเอง จะเปลืองค่า เค วายเจลมากค่ะ เพราะต้องใช้ร่วมกับถุงยางด้วย ป้องกันการติดเชื้อ…ถุงยางมีขายแบบถูกๆก็พอค่ะ เพราะจะได้ประหยัด
แต่พอเลยสี่เดือนไปแล้วไม่ต้องใช้ถุงยางก็ได้ค่ะ เพราะว่าแผลข้างในหายแล้ว เวลาจะทำความสะอาดช่องคลอดภายนอก ก็ทำเหมือนตอนคลีนิคทำให้ค่ะ ทา เบตาดีนและข้างในก็ใช้วิธี แบบ เบตาดีนสดๆฉีดเข้าไปข้างในค่ะ ด้วยลูกยางแดงเบอร์ใหญ่
แล้วพอหายดีแล้วก็ใช้ สบู่ล้างจุดซ้อนเร้นโดยใช้นิ้วเหย่ไปก็ได้ค่ะ เราทำแบบนี้ สะอาด ปราศจากกลิ่นแน่นอนค่ะ อิอิ
อ้อ…ขอเล่าตอนตัดไหมนิดนึงค่ะ หมอจะตัดใหมให้ช่วงเดือนแรกค่ะ ก็เข้าห้องผ่าตัดใหญ่ขึ้นขาหยั่ง ของเราไม่ได้ตัดไหมอย่างเดียวเพราะ อวัยวะเพศใหม่ของเรามีปัญหาค่ะ!
กลีบอวัยวะเพศด้านขวาด้านนอกเป็นกลีบ แต่อีกด้านซ้ายไม่เป็นค่ะ หมอก็บอกว่าจะแก้ให้นะ เราก็โอเคเลยค่ะ ตอนนั้นไม่เจ็บนะคะเพราะฉีดยาชา แต่ก็เจ็บเป็นบางครั้งเวลาโดนเนื้อค่ะ หมอก็บอกว่าจะเย็บเข้าอีกให้เป็นกลีบทั้งสองฝั่ง (โพสต์รูปไม่ได้แล้วค่ะ เลยไม่รู้จะอธิบายยังไง)
แล้วก็เย็บเสร็จ แต่เรื่องกลีบมันก็ไม่หายนะคะ ตอนสามเดือนแรกเราเครียดมาก กลัวไม่สวยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เครียดแล้ว พอใจมากค่ะ เพราะมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก เพราะเป็นตรงด้านนอกค่ะ ไม่ซีเรียสแล้ว
ด้านรูปลักษณ์ เราให้80คะแนนเต็มร้อยนะคะ เพราะไม่มีรอยแผลเป็นให้เห็นค่ะ รอยเย็บแบบตะขาบก็ไม่มี ตรงนี้เราปลื้มมาก แต่เสียก็ตรงกลีบเนื้อด้านข้างนี่ล่ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงมันต้องเห็นรูปนะคะ แต่ก็พอใจค่ะ
ส่วนความรู้สึกเราพอใจมากกกกกกกกกกกกกก 100คะแนนเต็มเลยค่ะ เพราะเรามีความรู้สึกครบและเวลา (ช่วยตัวเอง) ก็ฟินมากค่ะ อันนี้พูดตามตรงนะคะ เวลาทัช สกรีนก็แบบว่า เสร็จค่ะ มีน้ำหล่อลื่นออกมาด้วยนะคะอันนี้เราทึ่งมาก เวลามีอารมณ์ร่วมมากๆ และเวลาเสร็จ จะมีน้ำใสๆไหลออกมาค่ะแบบลื่นๆ แต่ด้านฟินคือ เรามีความรู้สึกว่าหลั่งอ่ะค่ะ และมันจะเสร็จได้แค่ครั้งเดียวนะคะ สำหรับเราไม่ได้แบบผู้หญิงจริงๆที่ได้ต่อเนื่อง
เหมือนพอถึงจุดแล้วก็หมดอารมณ์อ่ะค่ะ ต้องรอรอบใหม่ค่ะ ของคนอื่นไม่รู้ว่าเป็นแบบเราหรือเปล่านะคะ แต่ตความรู้สึกตรงคริสตอริสที่หมอสร้างมานี่ ฟินมากค่ะ ทำมาจากปลายอวัยวะเพศเดิมของเราค่ะ
แต่เวลามีเพศสัมพันธ์ก็จะต้องใช้เจลหล่อลื่นช่วยด้วยค่ะ แต่ไม่มีเลือดออกแล้วค่ะหลังจากผ่านห้าเดือนแรกไปแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องรอให้แน่ใจว่าไม่เจ็บแล้วนะคะ เพราะต้องรอให้แผลหายดีก่อนค่ะ ของเราเริ่มมีเพศสัมพันธ์ก็ตอนเข้าเดือนที่6ไปแล้วค่ะ
และโชคดีที่แฟนของเรามีขนาดไม่แตกต่างจากโมค่ะ เพราะถ้าหากใหญ่กว่าโมใส่ไม่เข้าแน่นอนค่ะ เพราะสภาพตอนนี้คือต้องพอดีหรือไม่ใหญ่มากไปกว่าโมที่เราใส่อยู่ประจำค่ะ
เราเคยคิดตลกๆ ว่าเวลาจะเลือกแฟนคงต้องดูที่ ****ก่อน ฮาๆๆๆๆ อันนี้ขำมากค่ะ
ส่วนอาการเจ็บหน่วงๆเวลายืนนานๆจะหายไปแบบปลิดทิ้งเมื่อเข้าเดือนที่3นะคะ จะสบายมากถ้าหากผ่านสามเดือนแรกไปได้ ตอนนี้เราเข้าเดือนที่10แล้ว ก็ถือว่าสมบูรณ์และปลอดภัยค่ะ
ส่วนเพื่อนๆที่สนใจก็ลองไปถามที่คลีนิคดูนะคะเพราะไม่รู้ว่าราคาจะเพิ่มไปหรือยังค่ะ เพราะตั้งแต่เราไปให้หมอดูสามเดือนแรก เราก็ไม่ได้กลับไปอีกเลยค่ะ เลยไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
โอเค เราขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เข้ามาอ่านหวังว่าจะเป็นความรู้ได้ไม่มากก็น้อย ขอบคุณ คุณหมอ อนุชิตและพี่พยาบาลที่ทำให้เรามีวันนี้ อาจจะมีบางครั้งที่เราไม่พอใจในบางอย่าง แต่ก็สมราคาค่ะ และชอบที่หมอไม่ทิ้งคนไข้ ช่วงที่เราไม่ยอมโมเอง ต้องไปคลีนิคทุกวันเป็นเดือนเลยค่ะ
หากใครอยากสอบถามอะไรก็ถามเราได้นะคะ ถ้าเราช่วยเหลือได้ก็พร้อมจะช่วยค่ะ
ชลิตา
ส่วนใครอยากจะติดต่อสอบถามเราเรื่องแปลงเพศหรืออยากดูรูปจริงๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นความรู้ก่อนจะแปลงเพศเราก็จะให้ดูได้ค่ะ โดยการแอดไลน์เรามานะคะ เราพร้อมจะให้ดูค่ะเพื่อเป็นความรู้ ที่ ID : Sapnun
อ้อเราขอเพิ่มเติมอีกเรื่องนะคะ เราขี่มอเตอร์ไซต์ตอนช่วงสองเดือนแรกหลังกลับมาขอนแก่นเลยค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ขี่มอเตอร์ไซต์ก็ไม่รู้จะทำยังไงเวลาจะออกไปข้างนอก ตอนนั้นยังเจ็บแผลอยู่เลยค่ะ แต่ไม่แนะนำสำหรับคนอื่นๆนะคะเพราะจะทำให้แผลระบมได้ เรานี่นั่งแบบไม่เต็มก้นอ่ะค่ะ ตลกมาก
และมีเรื่องตลกตรงห่วงยางด้วยค่ะ ช่วงแรกๆเราไปไหนก็ต้องนั่งบนห่วงยางตลอด เพราะป้องกันแผลกดทับ แต่เวลาออกไปข้างนอกเราก็ถือห่วงยางติดตัวไปด้วย ตอนไปคลีนิกก็เอามาด้วยค่ะ เพราะต้องนั่งบนห่วงยางช่วง2เดือนแรก แล้วเราเดินถือในห้างพาต้า แล้วตอนนั้นยังเดินแบบเป๋ๆอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งพูดตามหลังเราว่า สงสัยไปว่ายน้ำมาแล้วโดนโขดหินเลยเดินเป๋ๆ เราแอบขำในใจเลยค่ะ ตลกมากค่ะ
แล้วการขี่จักรยานก็ขี่ได้นะคะ แต่รอให้แผลหายดีก่อน เข้าเดือนที่5เราขี่แล้วค่ะ ไม่เจ็บแล้วก็วิ่ง ทำอะไรได้เหมือนคนปกติ ส่วนฮอโมนตอนนี้เราก็กินแค่ เอสโตม่อน ฮอโมนเพศหญิง แผงละ10เม็ด 50บาทค่ะ กินสองวันหนึ่งเม็ด แค่นั้นค่ะ
และวิตมินอะไรปกติเหมือนที่ทุกคนดูแลตัวเองกันอ่ะค่ะ
ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องยากค่ะ ถ้าเรากล้าและพร้อม ถึงแม้จะเจ็บปวดและทรมานก็ตามค่ะ แต่วันนี้ผลสรุปคือเราได้เป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว มันก็คุ้มค่ากับเงินและความเจ็บปวดที่ได้รับ